วันอาทิตย์ที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2557

อนุทินที่ 4

แบบฝึกหัดทบทวนอนุทินที่ 4

1.เหตุผลทำไมต้องประกาศพระราชบัญญัติการศึกษาภาคบังคับ พ.ศ. 2545
ตอบ เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ เนื่องจากรัฐบาลมีนโยบายปฏิรูประบบราชการโดยให้แยกภารกิจเกี่ยวกับงานด้านศิลปะและวัฒนธรรม ไปจัดตั้งเป็นกระทรวงวัฒนธรรม และโดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงการ บริหารและจัดการศึกษาของเขตพื้นที่การศึกษา ประกอบกับสมควรให้มีคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ทำหน้าที่พิจารณาเสนอนโยบาย แผนพัฒนา มาตรฐานและหลักสูตรการอาชีวศึกษาทุกระดับที่สอดคล้องกับความต้องการตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และแผนการศึกษาแห่งชาติ สนับสนุนทรัพยากร ติดตามตรวจสอบ และประเมินผลการจัดการอาชีวศึกษาด้วย จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้

2.ท่านเข้าใจความหมายตามพระราชบัญญัติการศึกษาภาคบังคับ พ.ศ. 2545 อย่างไร
ก. ผู้ปกครอง  ข.เด็ก  ค.การศึกษาภาคบังคับ  ง. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ตอบ ผู้ปกครองหมายความว่า บิดามารดา หรือบิดา หรือมารดา ซึ่งเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองหรือผู้ปกครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และหมายความรวมถึงบุคคลที่เด็กอยู่ด้วยเป็นประจำหรือที่เด็กอยู่รับใช้การงาน
เด็กหมายความว่า เด็กซึ่งมีอายุย่างเข้าปีที่เจ็ดจนถึงอายุย่างเข้าปีที่สิบหก เว้นแต่เด็กที่สอบได้ชั้นปีที่เก้าของการศึกษาภาคบังคับแล้ว
การศึกษาภาคบังคับหมายความว่า การศึกษาชั้นปีที่หนึ่งถึงชั้นปีที่เก้าของการศึกษาขั้นพื้นฐานตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหมายความว่า องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีสถานศึกษาอยู่ในสังกัด
 
 3.กรณีผู้ปกครองไม่ส่งเข้าเรียนตามที่กฎหมายฉบับนี้กำหนดจะต้องถูกลงโทษอย่างไร และถ้าเด็กไม่สามารถเข้ารับการศึกษาใครจะเป็นผู้มีอำนาจในการผ่อนผันเด็กเข้าเรียน
ตอบ ในกรณีที่ไม่สามารถดำเนินการให้เด็กได้เข้าเรียนตามวรรคหนึ่ง ให้พนักงานเจ้าหน้าที่รายงานให้คณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นท้องที่ที่พบเด็ก แล้วแต่กรณีเพื่อดำเนินการให้เด็กได้เข้าเรียนในสถานศึกษา
สำหรับกรณีผู้ปกครองไม่ส่งเข้าเรียนตามที่กฎหมายฉบับนี้กำหนดจะต้องถูกลงโทษตามกฎหมายดังต่อไปนี้
มาตรา 13 ผู้ปกครองที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรา 6 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท
มาตรา 14 ผู้ใดไม่อำนวยความสะดวกแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 9 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท
มาตรา 15 ผู้ใดโดยปราศจากเหตุอันสมควร กระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นเหตุให้เด็กมิได้เรียนในสถานศึกษาตามพระราชบัญญัตินี้ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
มาตรา 16 ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา 11 หรือแจ้งข้อมูลอันเป็นเท็จ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท

4. ให้นักศึกษาสรุปประเด็นสำคัญที่ได้จากการอ่านพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ ประเด็นสำคัญที่ได้จากการอ่านพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ คือ
          1. อำนาจหน้าที่ของกระทรวงศึกษาธิการกำหนดไว้ในกฎหมายพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ
          2.  อำนาจหน้าที่ของกระทรวงศึกษาธิการ คือ การจัดการศึกษา
          3.  การจัดระเบียบกระทรวงศึกษาธิการจัดได้เป็น 3 ส่วนคือ ระเบียบบริหารราชการส่วนกลาง ระเบียบบริหารราชการเขตพื้นที่การศึกษา และระเบียบบริหารราชการในสถานศึกษาของรัฐที่จัดการศึกษาระดับปริญญาที่เป็นนิติบุคคล
          4.  การกำหนดตำแหน่ง ลดอัตราเงินเดือน ของข้าราชการในกระทรวงศึกษาธิการ ให้คำนึงถึงคุณวุฒิ ประสบการณ์ และมาตรฐานวิชาชีพ ลักษณะหน้าที่และความรับผิดชอบ รวมถึงคุณภาพของงาน
           5.  บทบาทของรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการที่จะต้องดำเนินการตามพระราชบัญญัติการศึกษาภาคบังคับ คือ อำนาจในการออกกฎหมายกระทรวง ระเบียบและประกาศ และตีความวินิจฉัย ชี้ขาดปัญหาการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ดำรงตำแหน่งและหน่วยงาน
            6.  การจัดระเบียบบริหารราชการส่วนกลาง คือ ส่วนราชการที่ขึ้นตรงต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานรัฐมนตรี และสำนักเลขาธิการสภาการศึกษา
           7.  ส่วนราชการส่วนกลาง กระทรวงศึกษาธิการที่ไม่เป็นนิติบุคคล คือสำนักงานรัฐมนตรี
          8.  ผู้บังคับบัญชาข้าราชการในกระทรวงศึกษาธิการ คือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
          9.  การประเมินผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ไม่ใช่อำนาจหน้าที่ของสภาการศึกษา
          10.  ประธานคณะกรรมการการสภาการศึกษา คือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
          11.  คณะกรรมการที่กำหนดตำแหน่งประธานกรรมการไว้ในพระราชบัญญัติการศึกษาภาคบังคับนี้ คือ คณะกรรมการสภาการศึกษา
          12.  สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน คือผู้รับผิดชอบงานเลขานุการของคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
          13.  เลขาธิการรัฐมนตรี เป็นข้าราชการการเมือง
          14.  การติดตาม ประเมินผลนโยบายตามภารกิจ ไม่ใช่หน้าที่ของผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ
          15.  หน่วยงานระดับกระทรวงศึกษาธิการ กรมหรือหน่วยงานเทียบเท่ากรม และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เป็นหน่วยงานที่สามารถมีผู้ตรวจราชการได้
          16.  การศึกษา วิเคราะห์วิจัย นิเทศติดตามและประเมินผลการบริหารการดำเนินงาน คือบทบาทของคณะตรวจราชการในระดับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
          17.  บทบาทของกระทรวงศึกษาธิการที่มีต่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น คือ การประเมินความพร้อมในการจัดการศึกษา เสนอแนะ การจัดสรรงบประมาณอุดหนุนการจัดการศึกษา และการประสานส่งเสริมการจัดการศึกษา
          18.  ในกรณีที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาไม่อาจจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานหรือการศึกษาระดับอุดมศึกษา ระดับกว่าปริญญาตรีได้ จะมีสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการเป็นหน่วยงานที่จะมาจัด
          19.  หน่วยงานอื่นสามารถจัดการศึกษา ในรูปแบบการศึกษานอกระบบหรือตามอัธยาศัย การจัดการศึกษาสำหรับคนที่มีความสามารถพิเศษ และการจัดการศึกษาสำหรับผู้ที่มีความบกพร่องทางร่างกาย จิตใจ สติปัญญา อารมณ์ สังคม การสื่อสารและการเรียนรู้ หากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาไม่สามารถจัดการศึกษาได้
          20.  ผู้บังคับบัญชาข้าราชการสำนักงานรองรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ คือ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการและเลขาธิการ

          21.  ผู้บังคับบัญชาข้าราชการในสถานศึกษาของรัฐในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา คือ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น